AXI ดีไหม
AXI หรือ AxiTrader เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ประเทศออสเตรเลีย และได้ขยายการให้บริการไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยภาพรวมแล้ว AXI ถือเป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา
ข้อดีของ AXI:
- มีใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือจากหลายประเทศ
- ให้บริการมานานกว่า 15 ปี
- มีสภาพคล่องสูงและการดำเนินการที่รวดเร็ว
- เสนอสเปรดที่แคบและค่าคอมมิชชั่นต่ำ
- รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยได้
ข้อเสียของ AXI:
- ยังไม่มีการกำกับดูแลโดยตรงในประเทศไทย
- มีบางรีวิวเชิงลบเกี่ยวกับปัญหาการถอนเงิน
- ไม่รองรับการเทรด Cryptocurrency
- ไม่มี Copy Trading บนแพลตฟอร์มหลัก
โดยสรุปแล้ว AXI เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง สเปรดต่ำ แต่อาจไม่เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการฟีเจอร์เสริมอย่าง Copy Trading หรือต้องการเทรด Cryptocurrency
AXI คืออะไร
AXI เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ปัจจุบันให้บริการลูกค้ามากกว่า 60,000 รายใน 100 ประเทศทั่วโลก โบรกเกอร์นี้ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA (สหราชอาณาจักร) และ ASIC (ออสเตรเลีย)
ข้อมูลสำคัญ:
- ก่อตั้ง: 2007
- สำนักงานใหญ่: ออสเตรเลีย
- การกำกับดูแล: FCA, ASIC, DFSA, FSA-St-Vincent
- ประเภทโบรกเกอร์: ECN/STP
- แพลตฟอร์ม: MT4
- สินทรัพย์ที่ให้บริการ: Forex, CFDs (สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, สกุลเงินดิจิทัล)
ความน่าเชื่อถือ
AXI มีประวัติการดำเนินงานมายาวนานกว่า 15 ปี ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำกับดูแลโดยตรงในประเทศไทย
การให้บริการ
AXI มีการให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งในด้านเครื่องมือการเทรด สินค้าให้เลือกเทรดที่หลากหลาย และแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีบทวิเคราะห์และเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ตลาดให้กับลูกค้า
สภาพคล่อง
AXI เป็นโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง มีการดำเนินการที่รวดเร็ว และเสนอสเปรดที่แคบ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความรวดเร็วในการเข้า-ออกตลาด
ค่าธรรมเนียม
AXI มีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างแข่งขันได้ โดยเฉพาะในบัญชีประเภท Pro และ Elite ที่มีสเปรดต่ำมากและคิดค่าคอมมิชชั่นแทน อย่างไรก็ตาม บัญชี Standard อาจมีสเปรดที่กว้างกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด
การฝาก-ถอนเงิน
AXI รองรับการฝาก-ถอนเงินผ่านหลายช่องทาง รวมถึงธนาคารไทย ซึ่งสะดวกสำหรับนักลงทุนชาวไทย อย่างไรก็ตาม มีบางรีวิวที่กล่าวถึงปัญหาในการถอนเงิน ซึ่งอาจต้องระมัดระวังและศึกษาเงื่อนไขให้ดี
การสนับสนุนลูกค้า
AXI มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการ 24/5 และมีภาษาไทยรองรับ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักลงทุนชาวไทย อย่างไรก็ตาม คุณภาพของการให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของแต่ละคน
ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงจาก Pantip
“AXI มีการดำเนินการที่รวดเร็วและสเปรดที่แคบมาก แต่ฉันหวังว่าพวกเขาจะเพิ่ม MT5” – เทรดเดอร์มืออาชีพ
“ฉันชอบแหล่งข้อมูลการศึกษาของ AXI แต่ต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจเครื่องมือทั้งหมด” – เทรดเดอร์มือใหม่
จากการอ่านรีวิวและความเห็นของเทรดเดอร์ไทยใน Pantip พบว่ามีทั้งข้อดีและข้อจำกัดของ AXI หลายประการ โดยข้อดีที่หลายคนชื่นชม ได้แก่:
- สเปรดต่ำ โดยเฉพาะในบัญชี Pro ที่เริ่มต้นที่ 0.0 pip
- รองรับการฝากถอนผ่าน Skrill และ Neteller ได้
- แพลตฟอร์มเสถียร เหมาะกับการเทรดระยะสั้น
- มีฟีเจอร์ AXI Copy Trade สำหรับคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามบางความเห็นระบุถึงข้อจำกัด เช่น การสนับสนุนภาษาไทยที่ยังไม่ดีนัก เนื่องจากเป็นเพียงระบบแปลภาษาอัตโนมัติ ทำให้อาจเกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสาร รวมถึงการถอนเงินที่อาจล่าช้ากว่าโบรกเกอร์บางเจ้า
AXI ใบอนุญาต
AXI ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศ ซึ่งแสดงถึงความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ใบอนุญาตที่สำคัญของ AXI ได้แก่:
- Australian Securities and Investments Commission (ASIC) – ออสเตรเลีย
- หมายเลขใบอนุญาต: 318232
- ASIC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความเข้มงวดและน่าเชื่อถือ
- Financial Conduct Authority (FCA) – สหราชอาณาจักร
- หมายเลขใบอนุญาต: 466201
- FCA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำของโลก ที่มีมาตรฐานสูง
- Dubai Financial Services Authority (DFSA) – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- หมายเลขใบอนุญาต: F003742
- DFSA กำกับดูแลบริษัทการเงินในเขต Dubai International Financial Centre
- Financial Markets Authority (FMA) – นิวซีแลนด์
- หมายเลขใบอนุญาต: 518226
- FMA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูงในภูมิภาคโอเชียเนีย
นอกจากนี้ AXI ยังได้รับการจดทะเบียนกับ Financial Services Authority (FSA) ของ St. Vincent and the Grenadines ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมการให้บริการในประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชีย อย่างไรก็ตาม FSA ของ St. Vincent and the Grenadines ไม่ได้มีการกำกับดูแลที่เข้มงวดเท่ากับหน่วยงานอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อควรระวัง: แม้ว่า AXI จะมีใบอนุญาตจากหลายประเทศ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการกำกับดูแลโดยตรงจากหน่วยงานในประเทศ นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการลงทุน
AXI ประเภทบัญชีไหนดี
AXI เสนอบัญชีเทรด 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Standard, Pro และ Elite แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้:
- บัญชี Standard
- ข้อดี:
- ไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เทรดปริมาณน้อย
- ข้อเสีย:
- สเปรดกว้างกว่าบัญชีประเภทอื่น (เริ่มต้นที่ 0.9 pips สำหรับ EUR/USD)
- ข้อดี:
- บัญชี Pro
- ข้อดี:
- สเปรดแคบกว่าบัญชี Standard (เริ่มต้นที่ 0.0 pips)
- เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และเทรดปริมาณมาก
- ข้อเสีย:
- มีค่าคอมมิชชั่น $7 ต่อการเทรด 1 รอบ (round trip)
- ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $500
- ข้อดี:
- บัญชี Elite
- ข้อดี:
- สเปรดแคบที่สุด (เริ่มต้นที่ 0.0 pips)
- ค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุด ($3.5 ต่อการเทรด 1 รอบ)
- เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพหรือผู้ที่เทรดปริมาณมาก
- ข้อเสีย:
- ต้องฝากเงินขั้นต่ำสูงถึง $25,000
- ข้อดี:
คำแนะนำในการเลือกบัญชี:
- สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เทรดปริมาณน้อย: ควรเลือกบัญชี Standard เนื่องจากไม่มีเงินฝากขั้นต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และเทรดปริมาณปานกลาง: ควรพิจารณาบัญชี Pro เพราะมีสเปรดที่แคบกว่าและค่าคอมมิชชั่นที่สมเหตุสมผล
- สำหรับนักเทรดมืออาชีพหรือผู้ที่เทรดปริมาณมาก: บัญชี Elite จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากมีเงินทุนเพียงพอ เนื่องจากมีต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด
ข้อควรระวัง: ไม่ว่าจะเลือกบัญชีประเภทใด ควรคำนึงถึงความเสี่ยงในการเทรดและใช้การบริหารเงินทุนที่เหมาะสม การใช้เลเวอเรจสูงอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว
AXI เทรดอะไรได้บ้าง
AXI เสนอสินค้าให้เทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมตลาดการเงินหลักๆ ทั่วโลก ได้แก่:
- Forex (คู่สกุลเงิน)
- มีคู่สกุลเงินให้เลือกเทรดมากกว่า 70 คู่
- รวมถึงคู่เงินหลัก (Major pairs), คู่เงินรอง (Minor pairs) และคู่เงินเล็ก (Exotic pairs)
- ตัวอย่างคู่เงินยอดนิยม: EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, AUD/USD
- สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities)
- โลหะมีค่า: ทองคำ (XAUUSD), เงิน (XAGUSD)
- พลังงาน: น้ำมันดิบ WTI (USOIL), น้ำมันดิบ Brent (UKOIL)
- สินค้าเกษตร: ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ถั่วเหลือง
- ดัชนีหุ้น (Stock Indices)
- ดัชนีหุ้นจากทั่วโลก เช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, DAX, FTSE 100, Nikkei 225
- สามารถเทรดได้ทั้งในรูปแบบ CFD และ Cash Indices
- หุ้นรายตัว (Individual Stocks)
- มีหุ้นให้เลือกเทรดมากกว่า 1,000 ตัวจากตลาดหุ้นทั่วโลก
- รวมถึงหุ้นยอดนิยมจาก NYSE, NASDAQ, LSE และตลาดหุ้นอื่นๆ
- ETFs (Exchange-Traded Funds)
- มี ETFs ให้เลือกเทรดหลากหลาย ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมและภูมิภาค
ข้อควรทราบ:
- AXI ไม่รองรับการเทรด Cryptocurrency โดยตรง
- สินค้าส่วนใหญ่เทรดในรูปแบบ CFD (Contract for Difference) ซึ่งไม่ได้เป็นการซื้อขายสินทรัพย์จริง
- เวลาเปิด-ปิดตลาดและสภาพคล่องอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสินค้า
- ควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงของแต่ละสินค้าก่อนการเทรด
AXI แพลตฟอร์มเทรด
AXI เสนอแพลตฟอร์มการเทรดหลักๆ ดังนี้:
- MetaTrader 4 (MT4)
- แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ Forex
- ข้อดี:
- ใช้งานง่าย มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
- รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ
- มีทั้งเวอร์ชั่น Desktop, Web และ Mobile
- ข้อเสีย:
- อาจไม่เหมาะกับการเทรดสินค้าบางประเภท เช่น หุ้นรายตัว
- WebTrader
- แพลตฟอร์มเทรดบนเว็บไซต์ของ AXI
- ข้อดี:
- ไม่ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม
- สามารถเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- ข้อเสีย:
- อาจมีฟีเจอร์จำกัดเมื่อเทียบกับ MT4
- Mobile Trading App
- แอปพลิเคชันสำหรับการเทรดบนมือถือและแท็บเล็ต
- รองรับทั้งระบบ iOS และ Android
- ข้อดี:
- สะดวกสำหรับการเทรดและติดตามตลาดตลอดเวลา
- ข้อเสีย:
- หน้าจอขนาดเล็กอาจไม่เหมาะสำหรับการวิเคราะห์กราฟอย่างละเอียด
- Autochartist
- เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอัตโนมัติ
- ช่วยในการค้นหาโอกาสการเทรดและรูปแบบกราฟต่างๆ
- สามารถใช้งานร่วมกับ MT4 ได้
ข้อควรพิจารณา:
- AXI ไม่รองรับ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับนักเทรดบางคนที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมของ MT5
- ควรทดลองใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ผ่านบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเริ่มเทรดจริง เพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ
AXI ฝากถอนเงิน
AXI มีระบบฝากถอนเงินที่รองรับหลายช่องทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้:
การฝากเงิน:
- โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer)
- รองรับธนาคารไทยหลายแห่ง
- ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก AXI แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคาร
- ระยะเวลาดำเนินการ: 1-3 วันทำการ
- บัตรเครดิต/เดบิต (Credit/Debit Card)
- รองรับ Visa และ MasterCard
- ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงินต่ำกว่า 50,000 USD/เดือน
- ระยะเวลาดำเนินการ: ทันที
- e-Wallets
- รองรับ Skrill, Neteller, และ FasaPay
- ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก AXI
- ระยะเวลาดำเนินการ: ทันที
- Crypto payments
- รองรับการฝากผ่าน Bitcoin และ USDT
- อาจมีค่าธรรมเนียมจากเครือข่าย Blockchain
- ระยะเวลาดำเนินการ: ขึ้นอยู่กับการยืนยันธุรกรรมบน Blockchain
การถอนเงิน:
- โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก AXI สำหรับการถอนเงินมากกว่า 50 USD
- ระยะเวลาดำเนินการ: 1-5 วันทำการ
- บัตรเครดิต/เดบิต (Credit/Debit Card)
- จำกัดการถอนไม่เกินยอดที่เคยฝากเข้ามา
- อาจมีค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการบัตร
- ระยะเวลาดำเนินการ: 1-3 วันทำการ
- e-Wallets
- ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก AXI
- ระยะเวลาดำเนินการ: ภายใน 24 ชั่วโมง
- Crypto payments
- รองรับการถอนผ่าน Bitcoin และ USDT
- อาจมีค่าธรรมเนียมจากเครือข่าย Blockchain
- ระยะเวลาดำเนินการ: ขึ้นอยู่กับการยืนยันธุรกรรมบน Blockchain
ข้อควรทราบ:
- ยอดฝากขั้นต่ำอาจแตกต่างกันไปตามช่องทางการฝากเงิน
- การถอนเงินครั้งแรกอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน
- AXI อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30 USD สำหรับการถอนเงินต่ำกว่า 50 USD
AXI ถอนเงินไม่ได้ทำยังไง
หากคุณประสบปัญหาในการถอนเงินจาก AXI สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ตรวจสอบสาเหตุที่อาจทำให้ถอนเงินไม่ได้:
- ยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอ (รวมถึงกำไรที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน)
- ยังไม่ได้ปิดออเดอร์ที่เปิดอยู่ทั้งหมด
- ยังไม่ได้ทำการยืนยันตัวตน (KYC) อย่างครบถ้วน
- มีโบนัสหรือโปรโมชั่นที่ยังไม่ได้ทำตามเงื่อนไข
- ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ AXI:
- ผ่านทาง Live Chat บนเว็บไซต์ (แนะนำ เนื่องจากได้รับการตอบกลับเร็วที่สุด)
- ส่งอีเมลไปที่ [email protected]
- โทรศัพท์ไปที่หมายเลขสายด่วนสำหรับประเทศไทย: 001800120664622
- เตรียมข้อมูลสำคัญเพื่อแจ้งฝ่ายบริการลูกค้า:
- หมายเลขบัญชีเทรด
- ชื่อ-นามสกุลที่ตรงกับบัญชี
- จำนวนเงินที่ต้องการถอน
- วิธีการถอนเงินที่เลือกใช้
- ข้อความแสดงข้อผิดพลาด (ถ้ามี)
- รอการตอบกลับและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่:
- อาจต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนหรือแหล่งที่มาของเงิน
- ในบางกรณี อาจต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติมซึ่งอาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ
- หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้:
- ขอให้ยกระดับปัญหาไปยังผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้า
- พิจารณาการร้องเรียนอย่างเป็นทางการผ่านช่องทางที่ AXI กำหนด
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
- ควรอ่านและทำความเข้าใจนโยบายการถอนเงินของ AXI อย่างละเอียดก่อนทำการถอน
- เก็บบันทึกการติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าทุกครั้ง รวมถึงวันที่ เวลา และชื่อเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ
- หากพบปัญหาซ้ำซาก ควรพิจารณาการใช้บริการโบรกเกอร์รายอื่น
AXI ติดต่อเจ้าหน้าที่
AXI มีช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่หลายช่องทาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถขอความช่วยเหลือได้สะดวกและรวดเร็ว:
- Live Chat
- วิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด
- สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์หลักของ AXI
- ให้บริการ 24/5 (จันทร์ถึงศุกร์)
- มีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยได้
- อีเมล
- ส่งอีเมลไปที่ [email protected]
- เหมาะสำหรับคำถามที่ไม่เร่งด่วนหรือต้องการส่งเอกสารประกอบ
- ระยะเวลาตอบกลับอาจใช้เวลา 1-2 วันทำการ
- โทรศัพท์
- หมายเลขสำหรับประเทศไทย: 001800120664622
- ให้บริการ 24/5 (จันทร์ถึงศุกร์)
- เหมาะสำหรับกรณีเร่งด่วนหรือต้องการคำอธิบายแบบละเอียด
- WhatsApp
- หมายเลข: +61 448 090 530
- สะดวกสำหรับการติดต่อผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ
- Line
- ID Line: @701vddds
- ช่องทางที่สะดวกสำหรับลูกค้าชาวไทย
- Social Media
- Facebook: AXI Thailand
- Twitter: @axi_official
- Instagram: @axithailand
- สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นล่าสุดได้
ข้อแนะนำในการติดต่อเจ้าหน้าที่:
- เตรียมข้อมูลสำคัญให้พร้อม เช่น หมายเลขบัญชี, ชื่อ-นามสกุล, และรายละเอียดปัญหาที่พบ
- หากเป็นปัญหาทางเทคนิค ควรถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกข้อความแสดงข้อผิดพลาดเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่
- ใช้ภาษาที่สุภาพและชัดเจน เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- หากไม่พอใจกับการให้บริการ สามารถขอยกระดับปัญหาไปยังผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าได้
AXI โบนัสและโปรโมชั่น เงื่อนไข
AXI มีการจัดโปรโมชั่นและโบนัสหลากหลายรูปแบบเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า อย่างไรก็ตาม โบนัสเหล่านี้มักมีเงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด ต่อไปนี้คือตัวอย่างโบนัสและเงื่อนไขที่พบบ่อยของ AXI:
- โบนัสเงินฝาก 100%
- รับโบนัสเพิ่มสูงสุด 100% ของยอดฝากแรก
- เงื่อนไข:
- ต้องมียอดเทรดขั้นต่ำตามที่กำหนด (เช่น 1 lot ต่อทุก $100 โบนัส)
- มีระยะเวลาจำกัดในการทำยอดเทรด (เช่น 30 วัน)
- ไม่สามารถถอนโบนัสได้ แต่สามารถถอนกำไรที่ได้จากการเทรดด้วยโบนัส
- เงินคืน (Cashback)
- รับเงินคืนตามปริมาณการเทรด
- เงื่อนไข:
- ต้องมียอดเทรดขั้นต่ำตามที่กำหนด
- จ่ายเงินคืนเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส
- อาจมีข้อจำกัดในการถอนเงินคืน
- โบนัสแนะนำเพื่อน
- รับโบนัสเมื่อแนะนำเพื่อนมาเปิดบัญชีและเทรด
- เงื่อนไข:
- เพื่อนที่แนะนำต้องเปิดบัญชีและมียอดเทรดขั้นต่ำตามที่กำหนด
- อาจมีข้อจำกัดในจำนวนเพื่อนที่แนะนำได้
- โบนัสอาจจ่ายเป็นเงินสดหรือเครดิตเทรด
- โบนัสไม่ต้องฝากเงิน (No Deposit Bonus)
- รับโบนัสเพื่อทดลองเทรดโดยไม่ต้องฝากเงิน
- เงื่อนไข:
- มักมีจำนวนจำกัดและระยะเวลาในการใช้งาน
- อาจมีข้อจำกัดในการถอนกำไรที่ได้จากโบนัส
- ต้องทำยอดเทรดขั้นต่ำก่อนถอนเงิน
ข้อควรระวังเกี่ยวกับโบนัส:
- อ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดของโบนัสอย่างละเอียดก่อนรับ
- โบนัสอาจทำให้เกิดแรงกดดันในการเทรดเกินความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- บางโบนัสอาจมีผลต่อความสามารถในการถอนเงิน
- โบนัสและโปรโมชั่นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของ AXI
คำแนะนำ:
- พิจารณาว่าโบนัสนั้นเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณหรือไม่
- อย่าเทรดเพียงเพื่อทำตามเงื่อนไขโบนัส หากไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
- หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงื่อนไขโบนัส ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ของ AXI โดยตรง
สรุป
AXI เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีจุดแข็งหลายประการ โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของเงินทุน เงื่อนไขการเทรดที่แข่งขันได้ และเทคโนโลยีการเทรดที่ทันสมัย การได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง FCA และ ASIC ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์นี้อย่างมาก
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ AXI มีข้อได้เปรียบในด้านแหล่งข้อมูลการศึกษาที่ครอบคลุมและบัญชีทดลองที่ให้ฝึกฝนโดยไม่มีความเสี่ยง ในขณะที่เทรดเดอร์มืออาชีพอาจชื่นชอบสเปรดที่แคบและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงที่ AXI นำเสนอ
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดบางประการ เช่น การรองรับเฉพาะแพลตฟอร์ม MT4 และความหลากหลายของสินทรัพย์ที่จำกัด อาจเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาสำหรับเทรดเดอร์บางกลุ่ม นอกจากนี้ ความเสี่ยงสูงที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex และ CFD เป็นสิ่งที่ผู้สนใจควรตระหนักและเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มเทรด
โดยสรุป AXI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเทรด Forex และ CFD กับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีเครื่องมือที่ทันสมัย แต่เช่นเดียวกับการเลือกโบรกเกอร์ใดๆ ผู้สนใจควรพิจารณาความต้องการส่วนตัว เป้าหมายการลงทุน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี
Dojipedia เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลการลงทุนเกี่ยวกับตลาด Forex มีประสบการณ์การลงทุนในตลาด Forex มา 5 ปี ภายหลังจากที่ศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้สนใจทั้ง Elliott Wave, ICT Trading, Smart Money Concept และวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จนชำนาญ พบว่า ความรู้ที่ตัวเองศึกษาได้ผล จึงสร้างเว็บขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ เรามีแผนการเขียนหนังสือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อแจกฟรี สามารถหาโหลดได้โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการค้า
ความชำนาญ
- การเลือกโบรกเกอร์ Forex
- Inner Circle Trader
- Smart Money Concept
- Elliott Wave
- Tradingview Technical Analysis
ผลงาน
- รวมรูปแบบกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น โดย Dojipedia
- หนังสือ ทฤษฎี Dow Theory โดย Dojipedia
- หนังสือ สามมหาวิถี โดย Homma เรียบเรียง โดย Dojipedia
- หนังสือ The Martingale โดย Dojipedia
- หนังสือ Inner Circle Trader (ICT Concept) โดย Dojipedia (EN), (TH)